พันธกิจบ้านธารพระพร ขอบคุณท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม หากมีข้อแนะนำหรือมีภาระใจต้องการมีส่วนร่วมสงเคราะห์และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้ยากไร้ ร่วมบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน ทำกิจกรรม โครงการดี ๆสามารถติดต่อกับเราได้ที่เมนูเว็บฯ "ติดต่อเรา" ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

 น้องเอมี่




ด.ญ.ชญาดา สียะ ( น้องเอมี่ ) เพศหญิง อายุ ๑๐ ปี ระดับความพิการ ๓,๔,๕,๖ น้องเอมี่ เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าลีซู เดิมทีอยู่กับครอบครัวที่หมู่บ้านแม่หมูลีซู ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ผมและครอบครัวได้พบน้องเอมี่ตอนที่น้องเอมี่อายุได้เพียง ๖ เดือนเท่านั้น พ่อกับแม่ของน้องเอมี่เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวมีลูก ๓ คนด้วยกัน คนแรกเป็นชาย คนที่ ๒ เป็นชายเช่นกัน มีความผิดปกติที่ไม่สามารถบังคับการขับถ่ายปัสสาวะได้ แต่ก็มาติดลูกอีกคน จึงพยายามเอาลูกคนที่ ๓ ออก นั่นก็คือน้องเอมี่นั่นเอง เล่าต่อไปว่า พ่อแม่พยายามกินยาถ่ายน้องเอมี่ออกมา แต่ก็ไม่ออก ไปหาหมอตำแย ให้หมอใช้สมุนไพรนวดออก ทั้งบีบ ทั้งเหยียบ สารพัดวิธี แต่น้องเอมี่ก็ไม่ออก จนกระทั้งคลอดออกมาตามปกติ น้องเอมี่กลายเป็นเด็กพิการที่มีน้ำบวมอยู่บนหัว สมองบางส่วนแทนที่กระโหลกส่วนหน้าผาก สายตาปลิ้น กระดูกสันหลังงอ และแตกเป็น ๒ ส่วน โผล่ออกมานอกผิวหนังที่หลัง


แพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ ได้ทำการผ่าตัดน้องเอมี่ใส่สายยางที่หัวเพื่อจะให้น้ำบนหัวไหลลงมาที่กระเพาะอาหาร ผ่าตัดหลังให้เนื้อและผิวหนังหุ้มกระดูกที่งอออกมา และแตกตรงกลาง ก่อนผ่าตัดพ่อแม่น้องเอมี่เล่าให้ฟังว่า " น้องสามารกระติก เคลื่อนไหวขาและเท้าได้ พอผ่าตัดแล้วน้องก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวอวัยวะตั้งแต่เอวลงมา และน้องก็ไม่รู้สึกด้วย ผมไม่ขอวิจารณ์และออกความเห็นต่อแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้ เพราะไม่รู้เป็นใคร เขาอาจเต็มที่แล้วก็เป็นได้ครับผม ก็คงต้องมีคำขอบคุณที่สามารถช่วยน้องเอมี่ได้ขนาดนี้ครับผม



ครอบครัวผมได้รับเลี้ยงน้องเอมี่มาตั้งแต่มีอายุเพียง ๖ เดือนเท่านั้น แม้ช่วงแรกไม่ได้อยู่ในครอบครัวผม แต่เราช่วยเหลือทุกรูปแบบ เช่น อาหาร แพมเพอร์ส นม ขนม และการรับส่งตามโรงพยาบาลที่น้องเอมี่ต้องพบหมอประจำ ทั้งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ อยู่มาไม่นานนักแม่ของน้องเอมี่ทิ้งครอบครัวไปหางานทำที่เชียงใหม่ ไม่มีคนรับผิดชอบน้องเอมี่ พ่อของน้องจึงมาขอความช่วยเหลือ ทางผมและครอบครัวก็เห็นใจเพราะน้องเป็นผู้หญิงและต้องการความช่วยเหลือพิเศษจริงๆ น้องเอมี่ต้องสวนยาเพื่อขับถ่ายตลอด และต้องสวนปัสสาวะออกทุก เช้า กลางวัน เย็น ด้วย งานเหล่านี้พ่อของเอมี่และพี่ชาย ๒ คนไม่อยากทำ ครอบครัวผมจึงขอรับน้องเอมี่มาเป็นลูกบุญธรรม เพื่อจะสะดวกในการดูแล และสามารถพาไปได้ทุกที่แม้ต่างประเทศ 


ปัจจุบันครอบครัวผมได้พาน้องเอมี่เข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อรอการผ่าตัดรักษาให้น้องเอมี่มีชีวิตความเป็นอยู่ืี่ดีขึ้น เนื่องจากว่าน้องเอมี่ไม่ใช่คนอเมริกา จึงต้องรอเป็นกรณีพิเศษจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอนุมัติเรื่องการผ่าตัดรักษา ทุกวันนี้น้องเอมี่ได้เข้าเรียนโรงเรียนกับเพื่อนๆที่ปกติ น้องเอมี่ชอบไปโรงเรียนมาก ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่งอแง ไม่ชอบพูดคุยกับใคร แต่ก็พูดได้ น้องเอมี่พูดแต่ภาษาอังกฤษแล้วเวลานี้ ผมพยายามแล้วแต่น้องเอมี่ไปไม่ได้จริงๆ อายุ ๑๐ ปีแล้ว ยังอยู่อนุบาล ๓ ครับผม ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพัฒนาการทางสมองของน้องช้ามาก สาเหตุก็บอกไปแล้วครับผม


น้องเอมม่า รักน้องสาวเอมี่มากๆ เอมม่าเป็นพี่สาว เป็นเพื่อน ให้กับน้องเอมี่ตลอดมา ก็มีบางครั้งที่ต่างก็หงุดหงิดใส่กัน แต่ก็ไมบ่อยนัก แม้ว่าน้องเอมี่อยู่กับครอบครัวผมที่อเมริกา เราก็นำรูปครอบครัวของน้องเอมี่ มาให้ดูและบอกเสมอว่านี่คือพ่อแม่แลพี่ๆที่แท้จริง น่าเศร้าแต่ก็ต้องทำ และบอกน้องเอมี่ว่าแม้ว่าสาเหตุเพราะอะไรจึงต้องมาอยู่กับครอบครัวผม และให้ความรัก ความหวัง และความเชื่อมั่นว่าเราจะดูแลกันอย่างดีที่สุด เมื่อน้องเอมี่เติบใหญ่ก็พร้อมที่จะให้น้องเอมี่สามารถเลือกเองได้


การช่วยเหลือ ระบบการต่างๆ ความก้าวหน้า การพัฒนาการ การดูแล คนพิการในอเมริการดีมากๆ เขาดูแลคนของเขาดีมากๆ มีสวัสดิการและการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ระเบียบ และทันสมัยจริงๆ น้องเอมี่แม้ไม่มีบัตร แต่ครอบครัวผมก็พยายามเดินเรื่องให้อย่างเต็มที่ ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงรักและจัดเตรียมอะไรต่อมิอะไรให้น้องเอมี่อย่างมากมาย ผมได้เห็น ได้ยิน น้องเอมี่หัวเราะ ร้องให้ น้องเอมี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผมไปแล้ว






การผ่าตัดใหญ่ของน้องเอมี่กำลังเดินทางมาไกล้แล้ว ขอแรงอธิษฐานเผื่อน้องด้วย เป็นการผ่าตัดที่เสี่ยงมาก แต่ก็เพื่อน้องเอมี่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น สิ้นปีนี้ หรือปีหน้า และปีต่อๆไปก็ตาม เราจะขออยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้า ขอบคุณมากที่กรุณาติดตามและอธิษฐานเผื่อกันและกัน ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรครับผม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น